วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2552

กวีสัพรีหวน

สัพหลีหวน
ขุนพรหมโลก
นครรังยังมีเท่าผีแหน กว้างยาวแสนหนึ่งคืบสืบยศถา
เมืองห้างกวีรีหับระยับตา พันหญ้าคาปูรากเป็นฉากบัง
สูงพอดีหยีหิบพอหยิบติด ทองอังกฤษสลับสีด้วยหนีหัง
กำแพงมีรีหายไว้ขอดัง เจ้าจอมวังพระราโชท้าวโคตวย
มีเมียรักภักตร์ฉวีดีทุกแห่ง นั่งแถลงชมเชยเคยฉีหวย
เจ้าคีแหมรูปโอเมียโคตวย ท้าวหวังรวยกอดินอยู่กินกัน
มีลูกชายไว้ใยชื่อไดหยอ เด็กไม่ลอเกิดไว้ให้ทีหัน
นอนเป็นทุกข์ดุกลอยิ่งคอดัน ให้ลูกนั้นหาคู่เป็นหูรี
ต้องไปขอลูกสาวท้าวโบตัก มันตั้งหลักอยู่ไกลชื่อไหหยี
เป็นลูกเนื้อเชื้อนิลนางหิ้นปลี เมืองห้างชีปกครองทั้งสองคน
หยิบกระดาษดินสอมาจอดับ เขียนแล้วพับอ่านดีครบสี่หน
ให้เสนีมีหือถือนิพนธ์ เด็กหนึ่งคนก้มพักตร์มาดักรอ
จึงตรัสใช้เสนีให้คลีหาน สูรีบผ่านบ่ายพักตร์เถาะดักหยอ
ผมเป็นโรคเหน็ดเหนื่อยหัวเดือยปอ รักษาพอมาคลายกินหายควี
แต่นายใช้จำกัดดัดไม่ขอ ถึงเด็กรอต้องไปถึงไหหยี
รักษาโรโคตวยพวยทันที จากบุรีเร็วพลันดันไม่รอ
เข้าป่าแกแลทั่วกลัวผีเห็น เดินเย็นๆตัดตรงใต้ดงหลอ
พบสระศรีบัวชุกดุกขึ้นออ เด็ดสองลอดุ่มกลิ่นหอกหมินดี
ชะนีหงส์ลงดินลงกินน้ำ เดินมุ่งตามเห็นรอยหอยกับหมี
พบเบื้องอ่างถางใหญ่ไหของคี ใครมาตีแตกสะเก็ดเหมือนเด็ดยอ
เที่ยวจรดลยนเค็จไม่เสร็จเรื่อง ใกล้ถึงเมืองหิวจี้ไม่มีหอ
อดข้าวน้ำสามวันดันทั้งวอ บอบเสียพอตัวกูเรื่องหูรี
พบดอกปอกอดำจำต้องเด็ด ยีให้เหม็ดเกลี้ยงวาวเหมือนหาวสี
บรรลุถึงเขตทางเมืองห้างชี เจ้าธานีหัวด่างเป็นสางคลา
กำแพงก่อต่อด้านทหารเฝ้า เสียงคนฉาวเข้าไปถึงใดหลอ
พวกเสนาเซ็กเซ็กเด็กมารอ มายืนออถามดูแล้วหูดี
เราจากไกลไฉแข็งเก่งนักหนา ถือสาราจะเข้าไปให้ไหหยี
ท้าวโบตักจอมวังยังพอดี เจ้าหิ้นปลีคีหันหรือฉันใด
นายข้อดีว่าอยู่เปิดตูแอด ตาดเกือบแขดเสียงเบียดเรียดไม่ไหว
นายดักหยอรายงานแล้วผ่านไป เห็นข้อไลนั่งกันกับภรรยา
ค่อยคอด้อมน้อมกายถวายสาร คลีถึงหานวันนี้ดีเข้าหา
เนตรยนเค็จเสร็จสรรพพรับสารา ในวาจาโคตวยรักด้วยกัน
ได้จากเมืองห้างกวีเจ้าคีแหม มาพูดแย้มบุตรีไปดีหัน
ให้ใดหยอขอดูเป็นคู่กัน โบตักนั้นหิ้นปลีพลอยดีใจ
เรียกลูกสาวขาวเด็ดเหมือนเห็ดยาง พิศพางค์รัศมีราศีไห
ผู้ใดยลทุกเค็จมีเม็ดใย พอเติบใหญ่เป็นทุกข์เพราะหุกลี
ได้ฟังพ่อถอดอกเดินออกหา นั่งวันทาลกลกน้ำหกสี
เรียกลูกมาเป็นไฉนเรื่องไหคี ได้ลูกนี้เข้าใจเพราะใดคอ
เจ้าฟังพ่อยอดกจะยกเรื่อง อย่าคอเดืองเล่าไปเรื่องใดหยอ
พ่อจะยกหกเท็จเรื่องเด็ดยอ เด็กไม่ลอข้ามแดนมุ่งแม่นมา
ท้าวโคตวยเป็นพ่อมาขอเด็ก ถึงตัวเล็กก็พอดีไม่สีหา
นี่ตัวพ่อคอดันลั่นวาจา ตัวเจ้าอย่าขอตัดได้นัดงาน
สุดแต่พ่อคลอดำทำไฉน กี่จิ้มไหกับข้าวของคาวหวาน
หนึ่งตกข้าวคลีหุกคลุกน้ำตาล สำหรับงานเลี้ยงคนทุกดนคอ
แล้วหูหมีฉีหีกฉีกให้เล็ก ไว้จอเด็กพอดีมีทุกหอ
หอยกับหมียีหำยำให้พอ ดาวให้ยอไข่เป็ดเด็ดให้ยำ
ลูกมะกอกดอกตอขอให้ดูด ฉีเจ้าหูดเส้นหมี่เอาสีหำ
แกงตังหุนพรีขี้หิกใส่หยิบตำ ส้มกอดำเชือดตอยใส่หอยจี
ควายหนึ่งขาหาหมีใส่ดีหม กวนขนมยาเหม็ดเห็ดฉูฉี
ต้องฆ่าไก่มัสการหานเจ้างี ดูเดือนปีถึงวันดันคอยรอ
ขึ้นสิบสี่ปีเหิดเปิดโอกาส จำอย่าพลาดแน่ประจักษ์นะดักยอ
รีบไปบอกโคตวยเตรียมหวยคอ เราดักรอทำงานการวิวาห์
นายดักหยอขอลาคีหากลับ น้อมคำนับทันทีขอลีหา
รีบอย่าเหม็งเด็งฉอไม่รอตา หนึ่งพลิบตาถึงวังดังเข้ารอ
เห็นคีแหมแย้มยั่วกับผัวรัก นั่งเชยพักตร์นิ่มนุชแม่ดุจหลอ
เสนาเฝ้าเล่าเสร็จเรื่องเด็จยอ นางชอบพอหันไหเข้าไยดี
ว่าแต่งงานสิบสี่ต่อปีเหิด ลูกที่เกิดพาไปให้ไหหยี
การตกเรารู้สิ้นเรื่องหิ้นปลี ถึงวันดียกพลทุกดนคอ
พร้อมเจ้าบ่าวแม่พ่อที่ขอดัก ให้ชวนชักกันไปกับไดหยอ
เตรียมยกพลเจ้าบ่าวดาวยอ ๆ เลี้ยงให้พอบ่าวสาวหาวเหม็นคี
อยู่ในเขตเดือนนี้ยังปีหิด เรื่องที่คิดไว้พลางไม่ห่างถี่
ขอแบ่งรักพักรอการหอดี ยกโจรีต่อดั้งคิดหวังรวย
จะกล่าวข้อจอโดนเที่ยวโผนผก ขอกล่าวยกถอดอกกับคอกถวย
ทั้งสอดองสองนายไม่ไข้ป่วย หวังแต่รวยเที่ยวปล้นทุกหนคี
พร้อมทั้งคู่อยู่ใต้ไม่หยีหำ พอเย็นค่ำกินเหล้าแกล้มหาวสี
หยิบน้ำพริกมาตั้งนั่งจอดี พอเมาจี้ขอแดงแถลงกัน
ว่าคืนนี้จีหีบจีบสักบ้าน ทั่ววิหารบ้านมีแถวคีหัน
เมื่อกินแล้วอย่ารอนั่งคอดัน เสกแป้งยันต์เป่าลงให้ดงคอ
แขวนทิศหมอนสำคัญลงยันต์เก็ด ผ้าชีเห็ดอย่างดีใส่ผีหอ
หยิบปืนพกนกสับใส่ดับคอ พอดักยอคนที่จากที่มา
พอึงเมืองโบตักแล้วพักหยุด เข้าจีหุดไฟส่องทุกห้องหา
ยืนกินว่านดานวอเอาทอดา พอขึ้นตาตัวแดงรู้แห่งดี
เป่าอาคมลมฉีเหมือนผีหูด ลูกหลักฉูดถูกหาของทาสี
น่านอนแอบชั่วคราวหาวเหม็นคี เห็นแต่คลีติดไหเข้าในวัง
ถึงโบตักอัปรีย์นอนทีหับ กำลังหลับนิ้วชี้นอนหยี่หัง
เก็บขอยหมนจนพอยอดัง ๆ เจ้าจอมวังฟอดิ้นค่อยลืนตา
เสียงปืนลั่นทันทีนอนผีหิง กลีบนหิ้งพอดีมือควีหา
ลุกตะลึงหึงหมีเรียกธิดา พวกโจราเข้าวังดังเอาคลอ
เข้าบังคับจับตัวหัวกับผี เอาหีบคีไม่หลุดดุจเกือบหลอ
เก็บของใหม่ไหหมีทุบตีต่อ ใดไม่ปอยอมตายกลัวหายตี
แม่หนีเห็บเจ็บจี้ยิ่งคีหัน โกรธตัวสั่นตบหังเข้าดังผี
ท้านแค้นในไลเข็ดเอาเห็ดยี เข้าราวีรอดั่งประทังกัน
ฟอกับดาดหวาดหวั่นหันดังสี ถูกหูหมีร้องฉาวเข้ากี้หัน
ถ้าไม่ตายย้ายเด็ดให้เหม็ดยัน กระโดดฟันดาบกินเข้าหิ้นปลี
ร้องอึ่งมีสีเหียวปลายเตียวแขด ถึงเต็กแหลดอยู่ไม่ติดโลหิดฉี
เมียม้วนดิ้นสินใจพึ่งไหคี บ่าของพี่ขึ้นรับต้องดับคอ
ฝ่ายลูกสาวไหหยีหนีเถอะพ่อ หยุดดักรอโจรีจะขี่หอ
สู้ไม่ไหวพ่อก็เหนื่อยเพราะเดื่อยปอ ดวนก็นอชะแรลงแก่งอม
พลางร้องใช้ไหหยีรับหนีหัน แม่เจ้านั้นเป็นผีผู้จีหอม
ยังคงแต่ตัวพ่อเป็นจอดอม สู้อดออมจอดนไปจนตาย
กำลังรุมดุมสอเข้าทอดับ จะจีหับไหหยีวิ่งหนีหาย
พาหิงวี่ตีหัวความกลัวตาย ไปแอบกายบังตอใต้ยอดิน
พวกโจรีตีหามวิ่งตามสาว พอลมว่าวพัดฉีได้กลี่หิน
พบแต่รอยขอยหมนหล่นกลางดิน ยิ่งหมีหินแถวทางลาบหางนี่
พบสักทีคีหันได้ยันเก็ด จะยีเท็จวิ่งศูนย์พาหูนสี
เที่ยวยีแหงแดงขอเดินยอดี จับไหหยีฟังข่าวใต้ดาวยอ
พ่อเป็นตายไม่รู้เพราะหูกี ยังเห็ดยีก็ไม่เก่งเด็งจะฉอ
ครั้นกลีหับกลับบ้านดานแทงวอ จากใต้ยอยีหายพากายมา
เป็นกุศลหนคีตามทีหัน กระทั่งทันโยคีฤาษีหา
เห็นกุฏีปลูกล่อศาลอดา ค่อยพีหารีหูไหว้มูนิน
จะยกข้อโยคีฤาษีแหม อยู่ที่แคมกุฎีนั่งกีหิน
เป็นอาชีพชอบพอไม่กอดิน รักษาศิลเข้าฌาณสังขารใย
เห็นสีกานารีนั่งมีหอง เข้ามาร้องที่นี่ใครตีไห
เห็นหาวสีหลีหามพ่อถามไต่ มุ่งตาใสลีแหมาแต่ตัว
พ่อแม่ยายย้ายเข็ดไม่เสร็จเรื่อง เพราะรีเหื้องจากผีคิดหนีหัว
อยู่ไม่ได้รูปหล่อหลบหอดัว เลยปลีกตัวพีหามาถึงตี
ฟังโยคียีแหมพูดแยัมหน่อย มีน้ำหอยนีไหตกไหลฉี
เอามือยีคลีห้าวหามเท่าชี เล่ามุนีฟีหังอย่างกังวล
ท้าวโบตักเห็นพ่อหล่อกว่าเด็ก ชื่อไม่เล็กมั่งมีไม่จีหน
ฉันไหหยีชอบพอทุกคอดน เพื่อนทุกคนเห็นทักมาดักยอ
ต้นฉบับเลอะเลือน
แม่ถูกฆ่าพ่อถูกตีเอาดียอ ดังในคลอกวาดเก็บน่าเจ็บใจ
ลูกขอพักที่นี้พอฝีหาก ทนอดอยากสักทีตามจีไห
พ่อยินดีพีหาหลังคาใน ห้องสีไหต่อดั้งที่บังกาย
อยู่ที่วัดหัดวิทย์สอนหิดสี หอดีๆ หัดเทศน์วิเศษหลาย
เรียนคาถมดมคอมีหลอดาย พ่อสอนให้ทุกประการถึงหานวี
จะเหาะเหินเมฆีวิถีหาง ถ้อว่าพลางลอยสูดขึ้นหูดถี
เจ้าตาบอกหมายนั่งหำดี ทำฤทธีเหาะไปพ้นใดกอ
ถ้าสูงนักสกุณีจะจีหิก พอหายพลิกสู่ที่ธรณีหอ
ได้ทุกทางไม่ส่งใครด้งจอ ถึงดาวยอตีหัวไม่กลัวใคร
จนค่ำดึกฝึกหัดยัดข้างเว็ด ย้ายจนเด็จกับฤาษีนั่งคลีไห
ขอหยุดบทจดต่อเรื่องขอใด กล่าวต่อไปโบตักทรงศักดา
เข้ามากอดหิ้นปลีนั่งคลีหำ นับว่ากรรมของพี่พระยีหา
เคยยอดีรีหูอยู่กันมา เจ้าลอดาแล้วน้องให้หมองนวล
เมื่อบุญยังดี ๆ ปีกับไห ยามไปไหนตัวพี่เคยชีหวน
ถูกถอดอกตอกตำยำยียวน ไม่ถึงควรถึงตายแม่หายควี
ยกภูษีปีหิดแล้วปิดศพ ชาติหน้าพบกันเล่าเถอะหาวสี
แม้นตายไปข้างหลังยังยอดี เก็บหิ้นปลีทำศพพอจบเดือน
เธอไว้ทุกข์ดุกลอเป็นบ่อรัก เฝ้ารีหักโศกีไม่หมีเหือน
ใกล้พอดีวิวาห์เขามาเตือน พอถึงเดือนบุตรโตท้าวโคตวย
แสดงยอตอตั้งเกิดดังขลอ ดุกมันลอเต็มที่เรื่องคีหวย
นายใดหยอรอดักรักหวังรวย พร้อมโคตวยลูกบ่าวเขาเล่ามา
ว่าบังเกิดฉาวเฉินเหินขาวผี จับเห็ดยียิงปล้นเข้าค้นหา
ยิ่งร้อนหนักดักรอรีบพอดา ใช้บุตราไดหยอแขบกอดิน
รับข้าวน้ำหามชีฉูฉีเห็ด เนื้อใยเก็ดหายควีกีกับหิน
;แขบไปหาอย่ารอหิ้วหม้อดิน ใสน้ำกินตัดทางเมืองหางชี้
รีบครรไลใดหลอคอเกือบหัก บุกรีบรักร้อนใจด้วยไหหยี
จะแต่งงานยานเว็จไม่เสร็จที เกิดธุลีขอดัดน่าขัดใจ
ตัดทุ่งกว้างทางใหม่ป่าไทรโขก ต้นขลีโหกหัวหมีไม้พีไห
ล้วนหุมยีรีหาพ้นหญ้าไทร น้ำคลอไดไหลคล่ำเป็นลำธาร
ลงหวิดตักลักบ้างพอสางร้อน ข้ามดีหอนหาวยีลำธีหาร
อัศจอขอดันเกิดบันดาล รู้เหตุการณ์ว่าวัดไม้ดัดงอ
ต้นสีขาวยาวรีข้างกีหุด ยืนก้มมุดถามไถ่เรื่องใดหลอ
ช่างคนไทยหรือเจ๊กให้เด็กกอ ใดขึ้นปอบนกุฎิขอหยุดกัน
ได้จากบ้านมาไกลผมใดหยอ ถอนใจผลอพอดี-ฤาษีหัน
นั่งเสกดินสอพองป้องเก็ดยัน ถ้าคอดันใส่หายไว้ใช้เอง
นี่เจ้ามาเพียงนี้ตามคลีไห จงปราศรัยกับฤาษีอย่ากรีเหง
เจ้าอย่าหกยกคำทำกรอเดง คนกันเองเล่าพอได้ยอดี
ผมเที่ยวตามคู่หมั้นจนดันสอ หญิงที่ขอนี่หรือชื่อไหหยี
ถูกโจรปล้นตกใจเอาไหคี ผมรีบรีข้ามแคว้นถึงแดนลอ
เรื่องนารีซีหักพักในกุฎิ จะยอดุจสีไหคร่าวไดหยอ
เรียกพี่หามานี่เอาดียอ ด้งมันจอนั่งถ้ามาเร็วๆ
สาวดุ้งตื่นพอดีฤาษีแหบ ลุกขึ้นแขบทันทีเจ็บอีเหว
เอื้อมหยิบหวีสีหางอย่างม้าเร็ว แต่งเลวๆพอเสร็จเสด็จยัง
ถึงมูนีหวีให้ภิปรายถาม ใครตีหามานี่ระวีหัง
นี่คู่หมั้นรูปหล่อเขายอดัง งานข้างหลังเขาจะแต่งกับแหงดี
เป็นคู่รักใดหยอน่าถอดอก สาวยิ้มออกหัวฉาวหาวถีๆ
เล่าแต่หลังดังฟอจบพอดี ตัวผมนี้จะพาคนเอาดลยอ
จะแต่งงานต้นปีมารีหับ เกล็ดไปยับเมืองใหญ่บ้านไดหยอ
พ่ออย่าขัดตัดคำตำติดรอ เด็กนั้งคลอหมีเห็นนึกเอ็นดู
ไม่หยุดรอดีฤาษีให้ พอกราบไว้มูนีนั่งดีหู
สวัสดีตีหามตามคำครู วันกินอยู่หอดีอย่ามีภัย
ทั้งกกกอปอดีอย่ามีหมอง ให้เงินทองเกิดมีทั้งสีไห
รับเอาพรของพ่อลูกขอได ลุกขึ้นไปเดินตามพาหามตี
แล้วบีหอกออกรกยอดกหน่อย ชมอึกอ้อยซีหำต้นดำหมี
กรูดฝีไหใยเค็จชมเห็ดชี ด้นยอดีเดือยปอลูกกอดิน
นนทรีย์ห่มนมหวันต้นจันทร์สัก ไม้บ่ารักแหนหยีย่านปีหิน
พยอมเค็ดเหม็ดหมันลูกจันทร์อินทร์ เต็มแผ่นดินแน่นไปหนัดใดกอ
ชมไปพลางย่างเค็จพบเห็ดงอก ถอกับดอกชมเล่นให้เด็นหอ
ดอกไม่ดียีเห็ดเด็ดเกือบลอ ดอกไม่ปออย่าทุกข์เจ้าหุกลี
เห็นไหหยีหนีเหื่อยเดินเมื่อยเหน็ด บุกป่าเห็ดดอกขาวเหมือนหาวสี
หยุดกันไปใยเป็ดถอนเห็ดยี เอาหีบคีพอเสร็ดหายเข็ดเลย
ระอาเอือนเหมือนไข้ไม้ตีหอก มันแทงยอกเจ็บจี้หนามตีเหย
โลหิดฉีหวีห่างยกย่างเลย สาวไม่เคยหนามตำเข้าหำดี
พอถึงวังยังที่ต้อนรีหับ จะขอจับโคตวยแม่หวยสี
เห็นลูกบ่าวดาวยอว่าออดี หัดถ์ชูลีไหว้พอยอดัง ๆ
ค่อยยกย่องสรรเสริญเกิดเหินหมี เมื่อลูกนี้อยู่ไปในวีหัง
หอบเงินทองของเสร็จในเว็จยัง ของคลีหังวังทองหัวดองทอ
พ่อรู้ข่าวฉาวเฉินพาเหินดี นางหิ้นปลีแม่เจ้าถูกดาวหลอ
ท้าวโบตักย่อยยับดับเกือบพอ เดือยพานอยกธงเกือบปลงชนม์
พ่อให้ลูกตามไปรับไหหยี พาหับกลีวีหายไม่ไร้ผล
ไปแต่งงานบ้านพ่อเขาจอดน ไม่มีคนขอดัดจะจัดการ
กัดกินเลี้ยงที่นี่วาวีหา สุริยาทีเหียมเตรียมของหวาน
ถึงปีเหือนเดือนจอพอประมาณ มาในงานทุกคนทั่วดนคอ
พวกแก่เฒ่าบ่าวยักนั่งดักล้อม พรีทุกห้อมมากมีนั่งอีหอ
บ้างชูแว่นจุดเทียนนับเดียนวอ เด็กมารอชีเหินเจริญพร
ชะยันโตโยเห็ดกันเสร็จสรรพ เตรียมห้องหับวันดีนีกับหอน
หยุดรอดักลักบ้างวางไว้ก่อน จับเป็นตอนต่อไปใดจะคลอ
พอค่ำดีสีหำดำทั่วจบ ไม่หลีหบนอนในกับไดหยอ
เกิดฝนตกสกเส็กเด็กไม่ซอ เด็จจะยอจีหุกนอนคลุกคลี
มือฟีหาฟ้าแลบอยู่แปลบปลาบ เด็กซีหาบชายฝาหลังคาสี
พระพายฉัดพัดพวยหวยติดคี หันยังมีนอนทนให้ดลยอ
พอเสร็จสรรพหลับดีตอนผีเหย เงียบไปเลยเข้มแข็งปลายแด็งฉอ
ตำนีหารจารย์เพิ่มเอาเดิมต่อ ดั้งมันยอตีหั้งเรื่องยังมี
ยกแม่หม้ายร้ายชื่อคนลือดัง ยีแต่หังไม่เล็กชื่อเห็กหลี
เกิดตัณหากล้าพอไม่มอดี ไหขึ้นคลีไม่มีคู่จะอยู่ครอง
ผัวฉันตายหายไปชื่อไคหยวย เคยอยู่ด้วยหลายปีเฝ้าคลีหอง
ไม่มีโรคติดต่อดายขอดอง พอคนองเข้มขันเกิดหันคี
หาไม้แทงแยงเกล็ดวันเจ็ดแบก หิบไม่แตกกล้าแข็งแคมแหงหวี
ทนไม่ไหวใยเข็ดไม่เม็ดยี ขบทุกทีมากคนพอดลยอ
ต้องจากที่รีหูเมืองกูเกิด พอปีเหิดแล้วอวดดีนั่งยีหอ
เคยผลาญมามากมายดายชอ ๆ เด็กไม่รอเคยตายมาหลายคน
แม้นอยู่ไปที่นี่คับคีแหบ หาชายแอบสักทีได้ยีหน
รีบพีหาระเห็ดได้เค็ดยน ตัดถนนที่ห่างยกย่างมา
บุกป่ารกหกฟีเดินสีแหบ ไม้ถอบแถบดีปลีกันชีหา
ออกทุ่งกว้างห่างดีมีชะตา พบโจรป่ายีหายมาใต้ซวย
ฝ่ายโจรังหังยีออกหลีหัก มานั่งพักคีโหกเป็นโชคสวย
จะได้ชมสมปองสองคอดวย ผลอำนวยมีถึงที่นอน
แม่หนูจ๋าให้พี่ขอจีหูบ พอเห็นรูปรักจี้แม่หลีหอน
ชื่ออะไรถีหามถึงนามกร จากนครเมืองแมนเจ้าแดนลอ
ฉันล่ำเล็กเห็กหลีจากรีหู เป็นเมืองอยู่ไม่เก่งเด็งขี้ฉอ
ผัวฉันตายหลายปีดีไม่มอ ใครดักยอกลี่หอมจะยอมตัว
ได้ฟังคำหำดีไม่หนีหาย พี่อยากได้เห็กหลีเป็นผีหัว
เจ้าอย่ามีสีหาพี่พาตัว ทำกลอดัวละอายมิใช่ดี
แม้นไม่รักวันนี้ถูกถีหุ้ง มัดให้ยุงกัดคันยืนหันสี
เราเคยล้างหลายเด็กเห็กลี ๆ แหนบี ๆ ใต้เหนือไม่เหลือใคร
หากท่านมีกำลังหวังดีให้ อันตรายธุลีข้างนีไห
ยอมเป็นผีหนีหายไม่หน่ายไป สาวหักใจยอมโดยให้โจรจี
ยิ่งชอบพอถอดอกกับคอกถวย อยู่ใต้ซวยนอนแถลงกับแหงหวี
พอดุกลอเป็นทุกข์เกิดหุกลี ท้องเมฆีลมพัดกระจัดพัง
ใบไม้ขูดบูดรักเกือบหักแหก เสทือนแยกธรณีทั่ววีหัง
อาโปในไหลสอบนหลอดัง พวกชาววังยิกโหนเข้าโคนคลี
พอรุ่งรางสว่างใสเสียงไก่เขา กากระเหว่าร้องอยู่ว่าหูหยี
โจรทั้งสองสิ้นชีพเพราะหีบคี ไม่สิ้นดีรอดมค่อยสมกัน
จะขอโปรโบตักคอยลักเบีย ตั้งแต่เมียเป็นผีชีวีหัน
ยิ่งกว่าถูกคลีหึนเกิดมึนมัน สอแต่ดันค่อยเขยิบขึ้นเติบแรง
พอหิ้นปลีหนีหายมาตายเสีย แต่แรกเมียไม่มีที่จะกวีแหง
ไม่มีเมียไม่สุขยอทุกแดง จะหุงแกงไม่ได้ผลเหมือนหนคี
เกิดกำลังบังอาจต้องตลาดปลอก แตกขาดออกเกลี้ยงผาวอยากหาวสี
วันเจ็ดปลอกไม่พอย่านปอดี หาไหคีมาประดับสำหรับครัว
ไว้ใส่น้ำแก้ร้อนเป็นบอนรัก เย็นชื้นอักแน่นจี้ยังมีหัว
ออกสืบถามยามเพล็ดหวังเม็ดยัว ขาดสวนครัวหิงหยีเสียปีเดียว
ออกจากที่มีหันเดินคันหัว สืบให้ทั่วคีหังนั่งคลีเหียว
แม่หม้ายสาวหาวสีมีคนเดียว ไม่ข้องเกี่ยวมากมายเสียดายคอ
สองโมงเช้าเห็กหลีหนีถอดอก เก็บศพซอกสองผีใต้ยีหอ
ออกห่างผีมีเหินแล้วเดินต่อ เจอะดาวยอโบตักเอาหักดี
ร้องถีหามถามทักที่รักหยูด พี่สัยหูดอย่าหลอกบอกเห็กหลี
ท้าวโบตักอักหย่อนพูดอ่อนดี ว่าหายดีเป็นหม้ายมาหลายเดือน
ได้ของอื่นหมื่นแสนในแดนสอ ให้ชอบพอใจพี่ไม่หมีเหือน
นี่เจ้าดีไม่มอเที่ยวตอเดือน ทิ้งบ้านเรือนหาผัวให้หัวตี
ฟังคำพูดหูดถีคุณพี่ถาม เห็กหลีหามตอบพลันพูดหันสี
อยากหาผัวตัวหนุ่มเอาหุมดี ฉันยังมีเรี่ยวแรงให้แดงยอ
หม้ายต่อหม้ายย้ายเด็ดไม่เสร็จเรื่อง นั่งปลีเหื้องไม่ให้ไปเอาไดหนอ
เราใช่เหรี่ยงเชียงใหม่ใดคนทอ ดาวก็ยอกลับหลังหังก็ยี
ไม่บัดสีดีหูเป็นคู่เคล้า นั่งคลี้หาวกลางทางยกหางถี่
รอกับดวนชวนนางกลับห้างชี เป็นเมืองพี่ใหญ่กว้างเหมือนด้างชอ
ค่อยชมพลางเดินพลางป่ายางเกว็จ ผักชีเห็ดแหนบีคนทีสอ
แก่นขลีหาดหนาดเหนียดเดียดเข้าซอ ดังถึงวอพานางเข้าปรางค์นอน
น้ำห้อยยีสีเหงื่อติดเสื้อปราด คลี่หมอนสาดตีหังนั่งวีหอน
แม่เห็กหลีหนีเหื่อยลงเมื่อยนอน ท้าวเอื้อมกรจีหับไม่หลับลง
กลีเรื่องหุ้มดุมขาดกระดาษปะ ปอกับดะคืนนี้ได้บีหง
พลางยวนยีอีแหบล้มแนบลง นอนเล็ดยงกอดรัดยกดัดงอ
เหมือนเอายางวางใส่ในกระบอก ขบไม่ออกปล้ำกันปลายดันสอ
ฝ่ายเห็กหลีไม่เหนื่อยเดือยไม่นอ เด็ดคอยยอหยุดพักไว้สักคราว
ถ้าสีแหบแสบตับหลับเสียเถิด อย่าปีเหิดแมลงหมีจะคลี่หาว
เห็ดให้หมอหอเด็นเป็นคราว ๆ ตกเรื่องราวข้างท้ายแม่หายนี
ยกไหหยี ใดหยอนอนคลอดัก เฝ้าร่วมรักสมสองหองเป็นหนี
จะผัวไปไหว้หายแม่ยี สิ้นชีวีโจรนั้นเอาดันฟอ
ยังแต่พ่อต่อตั้งคิดหวังเหวิด กลับบ้านเกิดคลีไหชวนไดหยอ
ไหนว่าเจ้าเหือยปีเพราะดียอ หยุดพักรอลีห้างให้สางคลาย
พี่จะหายาดีมายีใส่ ร้านหมอไทยแหนบีเขามีขาย
ถ้าแผลมีหวีหางบีบวางปราย อย่าปล่อยไว้แช่ดองให้หองพี
ตั้งแต่พี่ยีเห็ดท้องเจ็ดเดือน ไม่อีเหือนไปเลยไหหยี
พอประสูติดูดรอสิ้นข้อดี ว่าลูกนี้ยีหิงเป็นหญิงชาย
ใกล้จะถ้วนด่วนกอพอครบสิบ กลัวลีหิบยีหังนั่งยีหาย
เจ็บเห็ดหวีสีหาวตอนเช้าบ่าย นอนยีหายสีแหบนึกแปลบใจ
หมอลีแหแต่หยำประจำบ้าน คลีบอกหานว่ามานี่วิไห ๆ
น้องเจ็บจี้หนีเหงือยเสื้อเปือยใน ทนไม่ไหวสีแหบแขบให้มา
ฝ่ายเจ้าผัวใดหยอใช้หมอดัด ช่วยปีหัดสักทีพอซีหา
แพทย์ใกล้ไกลไหคีรีบปรี่มา เข้าฟีหาคลีหำขยำลอง
พอยามดีปีหายเกือบได้การ พวกแม่ท่านหำดีนั่งมีหอง
ลมกำมัดดัดพอเป็นคลอดอง น้ำนีหองตีหามคลอดตามกัน
บริสุทธิ์บุตรี แม่ลีหือ ตัดสายดือพอดีล้างสีหัน
ถ้าหอเด็นเป็นชวยได้สอดัน ช่วยปล้ำกันป้อนยาน้ำหาที
ทาขมิ้นหิ้นหวีสีตามไห ปล้ำฟืนไฟให้ผิงพวกหิงหยี
นอนปีเหิดเกิดง่ายเหมือนหายคว หำไม่ชี้หนีเห็ดอยู่เจ็ดวัน
กอดบุตรตรีหวีเหียงนอนเคียงข้าง เฝ้าลีหางชีหมให้ดมถัน
ใดห้าปีสี่เห็ดเหม็ดนึกยัน ตั้งชื่อพลันลูกสาวแม่หาวคี
ฝ่ายเจ้าพ่อยอดังนั่งเฝ้าลูบ ก้มจีหูบค่อยชมผมหุ้มหยี
ยังไม่กลับบ้านพ่อเฝ้ายอดี ได้สิบสี่เชี่ยวพ่อได้หลอดาว
ไว้นั่งเล่นเห็นดีเอาคีหีบ กระโตนบีบช่วงสีแสงวีหาว
พออยู่ไปใจรักยักบ่าว ๆ ทนชั่วคราวค่อยถ้าสิบห้าปี
ยกจอมจักรนัคโรถึงโบตัก เป็นทุกข์หนักจอมใจถึงไหหยี
กระโดดโผนโจรปล้ำแม่หำดี วิ่งหันสีบั้นบุกถูกรุกราณ
ไปเจ็บไข้ย้ายเด็ดหรือเข็ดแค้น ยังคีแหนไม่กลับที่บุรีหาน
บอกเห็กหลีหนีหัดต้องจัดการ สืบข่าวสารให้แจ้งทุกแหงดี
เจ้าอยู่วังย้นเก็ดวันเจ็ดหน อย่าจอดลค่อยระวังเฝ้าหังหนี
ตามรูปหล่อฉอดุจพระบุตรี สั่งเห็กลีเมียรักป่ายพักตร์มา
อยู่ข้างหลังนั่งคอยคิดถอยหมอน ความเดือดร้อนเกิดมีสีๆ หา
นอนยีหัวชั่วคราวเฝ้ารอดา อยู่ ๆ มาศูนย์เปล่าแล้วเหารี
ทั้งสมบัติเงินทองดองเจ้าขอ ได้ไม่พอลูกสาวหาวยังสี
อีกสิ่งหนึ่งมีหลานเกิดหานปี หองพี ๆ เสียหายไม่ได้เรา
ทั้งเงินทองของมีปีบนหิ้ง ให้ลูกหญิงทั้งนี้เรากีเหา
คิดผีหายฆ่ามันจะบรรเทา เหลือแต่เราอยู่กินแทนหิ้นปลี
ริษยาฆ่าตีให้หมีหด กลืนสกดนิ่งในรอไหหยี
ขหยีหับดับเกียงทำเหียงบี เรื่องพอดีไดหยอลาพ่อมา
ชวนลูกสาวหาวคีเดินคลีไห เด็กพอใหญ่สิบสีเข้าปีหา
ออกตรีเหียมเตรียมพ่อพารอดา พี่แต่หาสองแผ่นแหนบี ๆ
พร้อมทั่งเมียลูกพ่อเดินยอดัก บุกรีหักรักแบกป่าแหกหลี
หนามปีหาดตาดแขดเข้าแหดดี โลหิตฉีนีไหชวนใดปอ
ใกล้ถึงเมืองห้างชีหนี ๆ เห็ด อย่าตามเท็จชมชี้บอกหนีหอ
หยุดสักทียีเหียนเดียนตามวอ ข้ามดอนตอปอคิดเจอะบิดา
ยืนสังเกตเนตรยลลงบนเค็จ น้ำตาเล็ดไหลรี่ดังฉีหา
เจ้าหนีเห็ดไปใยพาใครมา ดูหน้าตาผึ่งผายเหมือนหายควี
นี่คือลูกนี่ผัวแล้วหัวเราะร่อ ดอกผึ่งถอได้ฉันคราวหันสี
เมื่อปีเหิดเกิดนานรูหานบี ชื่อหาวคีสวยเด็จไม่เค็จใย
ยืนถามพ่อรอดูใครอยู่วัง ทิ้งคลีหังหมีหอยของน้อยใหญ่
เจ้าอย่าทุกข์ดุกลอเป็นยอใด อย่าตกใจเวียงวังหังพ่อยี
พ่อเพิ่งมีเมียใหม่ใยเไม่เหว็ด ย้ายจนเข็ดรุ่งเผ็กชื่อเห็กหลี
ให้มารับหลานสาวแม่หาวคี พร้อมไหหยีลูกสาวให้เข้าไป
ทั้งลูกสาวคนนี้ไปยีเห็ด ปรึกษาเสร็จเห็นดีข้างนีไห
ค่อยหันหลังดังขอชวนปอได ประเดี๋ยวใจผีหึงมาถึงวัง
เห็นแม่เลี้ยงเหียงบีนั้งกีเหา เธอกอเดาพูดดีแล้วอีหัง
พี่คิดถึงหึงมีอยู่ที่วัง กลัวร้อยชั่งดิ้นรนเรื่องดลยอ
พอมาถึงไหหยีลูกสีหาว ไหว้พ่อเฒ่าเข้าไปพร้อมไดหยอ
เคารพสามถามไถ่ใดลูกคอ นิยมยอชมเชยคลำเหยลี
เต่ากับแรดของนี้ผูกจี้ห้อย พลีกับหอยทองแท่นค่าแหนสี
ธำรงน้อยก้อยใส่เท่าไหกี ให้แหงดีเป็นหลานที่ผ่านมา
เหือกติดปลีฉีหีกอีกลูกเขย ไม่ว่างเฉยลองมีบันดีหา
เรื่องเงินทองของพ่อไม่สอตา เครื่องเสื้อผ้าแพรพันหันคี ๆ
เมื่อลูกชอบมอบให้ถ้าย้ายเด็จ หมีทุกเห็ดแก่เฒ่าหาวสี ๆ
เข้าดับบ้านดับช่องห้องดี ๆ ให้พวกนี้พีหักกันสักคราว
ผ้าที่นอนหมอนมีนีเหมือนหวน พ่วยนวล ๆ จัดให้มีแก้หนีหาว
พอค่ำดีหมีหินไม่สิ้นคราว น้ำค้างพราวลมโชยดกยกโหยรี
เกษรร่วงหวงกลีลงยี่หุบ ซอตามดุบหลั่งในน้ำไหสี
ท้ายชวนเมียเคลียครอพาหอด หามเท่าชีเข้าพักเถิดรักเรา
เข้าสู่ที่คลีไหถอนใจหือ เอื้อมจับมือสามีให้กีเหา
หันมันคียีขาทำตาเพรา พระง่วงเงาทีหับระงับเลย
พอแสงทองส่องดีสีเหงา ๆ เสียงไก่เขาขันถี่ว่าสีเหย
สดุ้งดีลีเหียปลุกเมียเลย พระกรเชยสีหันไม่ผันแล
ทำหน้านิ่งนิ้วชี้เอาสีไห หลับกระไรป่าฉะนี้ไม่ปลีแห
สดุ้งตื่นขืนใจไหวตัวแปร คอยคิดแต่ลบล้างให้ห้างรี
เอาบุตรีถีหวงคิดลวงหลอก จับปีหอกลอยแพกระแสร์ศรี
ท้าวโบตักเป็นผัวกับหัวกลี พูดกันที่ห้องหับประดับลอ
มาอยู่นานบ้านมีตั้งสีห้อง ได้แต่ของโน้นนี้หนีหอ
เครื่องผ้าผ่อนช้อนขันหัวดันกอ เด็ดค่อยยอกลีหับลากกลับเมือง
ว่ากระไรไหนพูดทำบูดรัก อย่าหมองพักตร์โสกีชำลีเหี่ยง
พี่ไม่ห้ามยามเพล็ดไม่เข็ดเคือง การกลับเมืองมาเยี่ยมทาษพวกหาดยี
จะขอหลานผ่านทางป่ายางเกว็จ ยามเสด็จเป็นเพื่อนห้ามเหือนถี
พาก็พาอย่าละเมิดให้เหิดปี ไหไม่หยีเที่ยวระเห็ดเค็จจะยน
เรียกหาวคีมีหน้านั่งถ้าคร่าว เรียกพ่อเฒ่าเรียกถี่เหมือนยีหน
นั่งก้มพักตร์ตักบายคลายยุบล เห็นขอยหมนคอยแจ้งรูแหงดี
บอกแม่พ่อยอดกเดือนหกกลับ ขหยีหับลาเสร็จออกเห็ดหนี
ป่ารีห้างทางรกเดินหกฟี ถึงทันทีลีเหทะเลวน
แล้วคาดแพยาวรี่ไม้สีหาม เชือกผูกข้ามฉีกฝอยย่นขอยหมน
สาวไม่นีในหึกรู้สึกตน ว่ากอดลแม่เฒ่าของหาวคี
ใช้ให้ลงไปรอถอกับดอก ถีบแพออกปล้ำกันรูหันสี
พอฉาบฉายใกล้ลึกหึกบี ๆ เห็นพอดีต้องม้วยด้วยหวยคัว
กระโดดน้ำหามพลีทีหอน พักหยุดร้อนริมฝั่งนั่งหวีหัว
กลับไปเยี่ยยมผัวรักไม่กลักบัว จ้งดีชั่วเรื่องราวของหาวคี
จับถึงสาวหาวสีนั่งปีหิด ยามสถิตย์ลอยแพแหเป็นหมี
ไม่รู้เลยว่าเขาทำใจหำดี หองยังพีตกคับมาอับปาง
ต้องน้ำเชี่ยวเตียวแสดแสงแดดส่อง นั่งมีหองโศกีไม่สีหาง
เกิดธุลีทีแหกแพแตกต่าง ล่มลงกลางสมิหุดเกาะหยุดมา
ฝูงมัจฉาพาฉีนึกสีแหบ เข้าว่ายแอบหาปลีเที่ยวพีหา
ผลบรรดาลหานปีมีชะตา เทวอดาสีหงษ์ไม่ปลงชนม์
จะจอดับขับข้อเทวอเดช ปรารภเหตุสว่างดีทางสีหน
วิชะยันหันเห็กจอเด็กจอเด็กจอดล พิมานบนสีหำไม่เห็นดำเห็นดี
สถิตย์แท่นนพรัตน์เวียนหัดถ์เวียนหัว สดุ้งตัวปีหามหันสามหันสี
นั่งก่อดมลมพังพอดังพอดี หรือไหคีแตกรานลักบานลักบน
หรือใครบวชสวดยัดนอกวัดนอกเว็จ ยังไม่เสร็จหลับไหลบี ไหบีหน
แสนลำบากอยากจะรู้ขอดูขอดล โลกสากลสีหาบลักบาปลักบาม
สร้างปาณาหาผิดตีหิดตีหอย บาปเล็กน้อยมีทั่วไหลขั้วไหลขาม
ไม่เบาถ้อยน้อยเล็กหลอเด็ก หลอดาม ลงมองตามบูรทิศเสียงปอคิดปอดัง
หรือในโลกพิภพพีหบพีหัก พอถอยหลักมองดูทั่วรีหูรีหัง (รัว)
เห็นเด็กน้อยลอยคอไม่ยอดัง เปลือกหนีหังเขียวเหน็จเหมือนเห็ดยี
ถึงคีหันวันหนึ่งไม่ถึงตาย นอนปีหายน้ำเชี่ยวรูเหียวขี
นั่งดีหูรู้กาลหลานหิ้นปลี ลูกไหยีโบตักดักเต็มตอ
อิเห็กหลีแม่เฒ่าไม่เย้าเข็ด มันฆ่าเสร็จภายหลังหวังดีหอ
คนใดบาปหาบสีไม่ดียอ เอาดกชอเสียให้ตายอย่าไว้ปราน
กูต้องไปช่วยหวยยังสี ใหผึ่งหยีวีหงน่าสงสาร
หยิบก้อนดินเข้าก่อเทวอดาน ปฏิหารคลีหิงแล้วทิ้งโยน
ลงขวางหน้าพอดีไม่กลีไห ทิ้งลงไปเสียงถนัดชื่อเกาะถัดเกาะโถน
ให้ล่ำเด็กหล่อเข้าจอโดน ละลอกโตนยีแหงเข้าแขวงบัง
แล้วลีหับกลับที่วิชีไห สำรวมใจอินทรีย์ไม่มีหัง
เดียวจีหึงถึงหาดคลื่นสาดดัง ขึ้นกระทั้งเกาะถิ่นฟักหินกี
กำลังหิวลิ่วลอยลูกขอยหมอง เห็นสุกพองเอื้อมปลิดจุกหิดหนี
ล้วนผลาหากินเก็บหินจี หอยทะยีกลีเหือเนื้อข้าวปลา
บริโครโหกชีไม่ขีหาด เหมือนปีศาจจีหาวเฝ้ารักษา
อยู่เกาะถิ่นกินหลับสับ ปอดาห์ เรือไหนมาถีหามจะข้ามไป
ยกเห็กหลีหยีหับคิดกลับหลัง พอถึงวังกรุงศรีบุรีไห
เห็นโบตักถักบอกกำขอกไท เข้าพิไรกอดองค์ให้ดงลอ
ว่าหาวคีหลานข้าข้ามหาหมี ห้วยยาวรีน้ำเชี่ยวหัวเดียวขอ
แพก็แหกแตกพราวเป็นดาวยอ ลงลอยคอว่ายดำรูหำดี
ถูกน้ำเชี่ยวเหียวหนีไม่สีเหือก ฉันกลิ้งเกลือกสุดแรงจนแหงหวี
หาไม่พบหลบหน้าพาหามี พระเดชพี่มองเห็นเด็นหรือออ
ท้าวบีเหงือเหลือเมียมาเสียหลาน นั่งต่อด้านทำฤทธิ์หัวดิดฝอ
บอกหิ้นปลีลูกเขยพาเดยลอ เด็กไม่ซอตามกันพาหันดี
เดินริมฝั่งหังยีไม่หมีเห็น จำปอเด็นตามเฝ้าหาวลูกสี
ถ้าสีหวนจวนศพเอาหบกี พร้อมไหหยีโบตักเที่ยวดักรอ
ถึงเวลาสายัณห์หันดังหวี ชวนเห็กหลีกลับไปเถอะใดหยอ
ไม่พีหบหลบกันดันทุกออ ดังกลับรอฟังข่าวอยู่อ่าวใด
พอเย็นย่ำค่ำดีจะคลีหำ ชวนงามขำเห็กหลีเข้าสีไห
(ต้นฉบับนี้มีเพียงเท่านี้)
สรรพลี้หวนควรอ่านตามบ้านร้าง หนำหรือห้างคลองทะเลนอกเคหา
จะดีร้ายปลายคำเป็นธรรมดา บอกภาษานิทานอ่านอย่าแปล
เหมือนแบบเก่าเอาชื่อถือเป็นหลัก ถึงที่รักก็ให้เฉยอย่าเผยแผ่
ให้อภัยบ่าวสาวหนุ่มเฒ่าแก่ ผึ่งขึ้นแลหยิบอ่านสำราญเอย
สรรพลี้หวนควรอ่านตามบ้านพัก หลังงานหนักเหน็ดเหนื่อยเมื่อยสมอง
เป็นเรื่องสนุกทุกท่านเชิญอ่านลอง บทร้อยกรองกลเม็ดเด็ดนักแล
นั่งคนเดียวในรถ-เรือเพื่อโดยสาร อย่าพึงอ่านคนจะว่าท่านบ้าแน่
ค่อยค่อยอ่านค่อยค่อยคิดค่อยค่อยแปล แล้วพึงแผ่ส่วนกุศลนักแต่งเอยเอย

วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2552




นกนอน (ทางใต้) แล้วที่อื่นมีหรือเปล่าครับ และเรียกว่าต้นอะไรครับ
ใบนกนอน จะสลับซ้ายขวาค่อนข้างหนาแน่น มีดอกตามข้อใบ และติดผลเป็นสีชมภูเข้ม ขึ้นตามดินลูกรัง หรือดินเหนียว ทนต่อสภาพอากาศแห้งแล้วได้ดี

ปลาเม็ง

ปลาเม็ง เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่งลักษณะคล้ายปลาดุก แต่ตัวเล็กกว่า เป็นปลาน้ำจืดท้องถิ่นท้องถิ่น ของอำเภอบ้านนาสารและอำเภอเคียนซาซึ่งมีอยู่ตามธรรมชาติและสามารถเพาะเลี้ยงได้ สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลายชนิด

เป็นเมนูอาหารขึ้นชื่อของอำเภอบ้านนาสารคือ ปลาเม็งยำ ถ้าใครมาอำเภอบ้านนาสารแล้วไม่ได้รับประทานปลาเม็งยำ ถือว่ายังมาไม่ถึงอำเภอบ้านนาสาร

ตัวตลก หนังตะลุง
















ตัวตลก หรือ รูปกาก มีความสำคัญในการแสดงหนังตะลุงมาก สามารถตรึงคนดูได้มีความผูกพันกับชีวิตของชาวบ้านมากกว่าตัวละครอื่นๆ หนังคณะหนึ่งๆ มีตัวตลกไม่น้อยกว่า 10 ตัวขึ้นไป พูดภาษาถิ่นใต้ การแต่งกายมักเปลือยท่อนบน หน้าตาจะผิดเพี้ยนจากคนจริงไปบ้าง แต่ละตัวมีเสียงพูดหรือสำเนียงโดยเฉพาะ ตัวตลกเอก นิยมนำหนังตีนของอาจารย์ที่ตนเคารพนับถือ มาทำเป็นริมฝีปากล่าง เพื่อให้เกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ ปิดทองทั้งตัว ขนาดเชือกชักปากทำด้วยทองแบบสร้อยคอก็มี ตัวตลกมีเป็นจำนวนมาก เฉพาะตัวที่สำคัญมีดังนี้
1.อ้ายเท่ง เอาเค้ามาจากชาวบ้านคนหนึ่ง ชื่อเท่ง อยู่บ้านคูขุด อำเภอสะทิ้งพระ จังหวัดสงขลา หนังจวนบ้านคูขุดนำมาตัดรูปตลกเป็นครั้งแรก หนังคณะอื่นๆ นำไปเลียนแบบ รูปร่างผอมบางสูง ท่อนบนยาวกว่าท่อนล่าง ผิวดำ ปากกว้าง หัวเถิก ผมงอหยิก ใบหน้าคล้ายนกกระฮัง นิ้วมือขวายาวโตคล้ายอวัยวะเพศผู้ชาย นิ้งชี้กับหัวแม่มือซ้ายงอหยิกเป็นวงเข้าหากัน นุ่งผ้าโสร่งลายตาหมากรุก คาดพุงด้วยผ้าขะม้า ไม่สวมเสื้อ ที่สะเอวเหน็บมีดอ้ายครก (มีดปลายแหลมด้านงอโค้งมีฝัก) ชอบพูดจาโผงผาง ไม่เกรงใจใคร ขู่สำทับผู้อื่น ล้อเลียนเก่ง เป็นคู่หูกับอ้ายหนูนุ้ย
2.อ้ายหนูนุ้ย นำเค้ามาจากคนซื่อๆ แกมโง่ ผิวดำ รูปร่างค่อนข้างเตี้ย พุงยานโย้คอตก ทรงผมคล้ายแส้ม้า จมูกปากยื่นออกไป คล้ายกับปากวัว มีเครายาวคล้ายหนวดแพะ ใครพูดเรื่องวัวเป็นไม่พอใจ นุ่งผ้าโสร่งแต่ไม่มีลวดลาย ไม่สวมเสื้อ ถือมีดตะไกรหนีบหมากเป็นอาวุธ พูดเสียงต่ำสั่นเครือดันขึ้นนาสิก ชอบคล้อยตามคนยุยงส่งเสริม แสดงความซื่อออกมาเสมอ
4.นายสีแก้ว เชื่อกันว่าเอาเค้ามาจากคนที่ชื่อสีแก้วจริงๆ เป็นคนมีตะบะ มือหนักโกรธใครตบด้วยมือหรือชนด้วยศรีษะ เป็นคนพูดจริง ทำจริง สู้คน ชอบอาสาเจ้านายด้วยจริงใจ ตักเตือนผู้อื่นให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามทำนองคลองธรรม รูปร่างอ้วนเตี้ย ผิวคล้ำ มีโหนกคอ ศรีษะล้าน นุ่งผ้าโจงกระเบนลายตาหมากรุก ไม่สวมเสื้อ ไม่ถืออาวุธใดๆ ใครพูดล้อเลียนเกี่ยวกับเรื่องพระ เรื่องร้อน เรื่องจำนวนเงินมากๆ จะโกรธทันที พูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ เพื่อนคู่หูคือนายยอดทอง
3.นายยอดทอง เชื่อกันว่าเป็นชื่อคนจริงชาวจังหวัดพัทลุง รูปร่างอ้วน ผิวดำ พุงย้อยก้นงอนขึ้นบนผมหยิกเป็นลอน จมูกยื่น ปากบุ๋ม เหมือนปากคนแก่ไม่มีฟัน หน้าเป็นแผลจนลายคล้ายหน้าจระเข้ โครพูดถึงเรื่องจระเข้ไม่พอใจ นุ่งผ้าลายโจงกระเบน ไม่สวมเสื้อ เหน็บกริชเป็นอาวุธประจำกาย เป็นคนเจ้าชู้ ปากพูดจาโอ้อวด ใจเสาะ ขี้ขลาด ชอบขู่หลอก พูดจาเหลวไหล ยกย่องตนเอง บ้ายอ ชอบอยู่กับนายสาว ที่มีสำนวนชาวบ้านว่า "ยอดทองบ้านาย" นายยอดทอง แสดงคู่กับตัวตลกอื่นๆ ได้หลายตัว เช่น คู่กับอ้ายหลำ คู่กับอ้ายขวัญเมือง คู่กับอ้ายพูนแก้ว คู่กับอ้ายดำบ้า คู่กับอ้ายลูกหมี คู่กับอ้ายเสมียน เป็นต้น
6.อ้ายขวัญเมือง ไม่มีประวัติความเป็นมา เป็นตัวตลกเอกของหนังจันทร์แก้ว จังหวัดนครศรีธรรมราช คนในถิ่นนั้น เขาไม่เรียกว่าอ้ายเมือง แต่เรียกว่า "ลุงขวัญเมือง" แสดงว่าได้รับการยกย่องจากคนในท้องถิ่นอย่างสูงเหมือนกับเป็นคนสำคัญผู้หนึ่ง ใบหน้าของขวัญเมืองคล้ายแพะ ผมบางหยิกเล็กน้อย ผิวดำ หัวเถิก จมูกโด่งโตยาว ปากกว้าง พุงยานโย้ ก้นเชิด ปลายนิ้งชี้คล้ายนิ้วมืออ้ายเท่ง นุ่งผ้าพื้นดำ คาดเข็มขัด ไม่สวมเสื้อ เป็นคนซื่อ บางครั้งแฝงไว้ซึ่งความฉลาด ชอบสงสัยเรื่องของผู้อื่น พูดจาเสียงหวาน หนังจังหวัดสงขลาแสดงคู่กับอ้ายสะหม้อ หนังจังหวัดนครศรีธรรมราชแถวอำเภอเชียรใหญ่ หัวไทร ปากพนัง ท่าศาลา ให้แสดงคู่กับนายยอดทอง หนังพัทลุง ตรัง นิยมให้เป็นตัวบอกเรื่อง เฝ้าประตูเมือง ออกตีฆ้องร้องป่าว
5.อ้ายสะหม้อ หนังกั้น ทองหล่อ นำมาจากคนจริง โดยได้รับอนุญาตจากชาวอิสลามชื่อสะหม้อ อยู่บ้านสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา หนังตะลุงอื่นๆ ที่นำไปเลียนแบบ พูดกินรูปสู้หนังกั้น ทองหล่อไม่ได้ รูปร่างอ้ายสะหม้อ หลังโกง มีโหนกคอ คางย้อย ลงพุง รูปร่างเตี้ย สวมหมวกแขก นุ่งผ้าโสร่ง ไม่สวมเสื้อ พูดล้อเลียนผู้อื่นได้เก่ง ค่อนข้างอวดดี นับถือศาสนาอิสลามแต่ชอบกินหมู ชอบดื่มเหล้า พูดสำเนียงเนิบนาบ รัวปลายลิ้น
7.อ้ายดิก เลียนแบบรูปเป็ด ริมฝีปากยาว พูดจากไม่ชัด พุงโย้ ก้นเชิดสูง นุ่งผ้าโจงกระเบน ไม่สวมเสื้อมือซ้ายถือกระจ่า ชอบยอ เป็นตัวตลกประกอบ มักเป็นเพื่อนคู่หูกับอ้ายปราบ
8.อ้ายปราบ เลียนแบบจากคนที่จมูกเป็นริดสีดวง จนจมูกยุบ ชอบกินแกงปลาไหล แกงปลาหมอ แกงตะพาบน้ำ ล้วนแสลงโรคริดสีดวงจมูกทั้งสิ้น ใครพูดจาเสียงอู้อี้เป็นโกรธทันที รูปร่างผอม นุ่งกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ ตัดผมสั้นหวีแสกกลาง มือหนึ่งถือหวี มือหนึ่งถือกระจก เป็นคนชอบแต่งตัวหวีผมบ่อยๆ แม้เวลารบกัน ขอพักรบหวีผมให้เรียบร้อยก่อน ไม่เป็นคนเจ้าชู้ สนใจตัวเองมากกว่าผู้หญิง เป็นตัวตลกประกอบ
9.อ้ายเสมียน เลียนแบบจากมโนห์รา ชอบรำ และร้องบทกลอนมโนห์รา ตัวอ่อนช้อยตัดต่อถึง 3 ท่อน ไม้ตับติดทแยงที่ศรีษะ ติดที่เท้า เอียงตัวไปมาข้างหน้าข้างหลังได้ เวลาเข้าที่คับขัน ปลอมตัวเป็นจอมปลวกเล็กๆ ฝ่ายศัตรูเข้าใจว่าเป็นจอมปลวก ก็เดินผ่านเลยไป บางครั้งปลอมตัวเป็นยายแก่ ตบตาผู้อื่น เอาชนะฝ่ายศัตรูด้วยกลอุบาย เอาตัวรอดได้เสมอ เป็นตัวตลกเอกของหนังหนูจุล จังหวัดนครศรีธรรมราช หนังหนูจุลถึงแก่กรรมไปแล้ว มีผู้นำไปเลียนแบบอยู่บ้าง
10.อ้ายหลำ เป็นตัวตลกเอกของ หนังพร้อมน้อย ตะลุงสากล ยอดหนังตะลุงของภาคใต้ แสดงหนังมาตั้งแต่อายุ 14 ปี หนังพร้อมน้อยเล่าให้ฟังว่า เมื่อเขาอายุได้ 15 ปี ได้ไปแสดงหนังตะลุงที่บ้านแหลมโตนด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เห็นหมาตัวหนึ่งคาบหนังวัวแห้งมา เข้าใจว่าเป็นรูปหนัง จึงให้ลูกคู่ช่วยกันไล่ตามหมาตัวนั้น และเอาหนังแห้งที่หมาคาบมาได้ หนังพร้อมเห็นมารูปร่างแปลก นำมาให้ช่างรูปหนังช่วยตัดส่วนที่เว้าแหว่ง ที่เกิดจากรอยหมากัดออก ทำเป็นรูปตลก ตั้งชื่อว่า "อ้ายหลำ" มีรูปร่างแปลก หัวเล็ก ลำตัวใหญ่ ไหล่ผึ่ง ตะโพกใหญ่ แต่งตัวทันสมัย สวมเสื้อมือยาว ผูกเนคไท นุ่งกางเกงขายาว สวมรองเท้า ชอบพูดจากหยาบโลน เสียดสีสังคม แผ่ความจริง ชอบเล่านิทานสัปดลมีนิทานประเภทนี้เป็น 100 เรื่อง ถ้าเกิดเล่นนิทานขึ้นมาแล้ว โดยนายยอดทองคู่หูเป็นผู้ซักถาม เล่าติดต่อกัน 4-5 เรื่อง กินเวลาเป็นชั่วโมง สติปัญญาหลักแหลม ไม่กลัวใคร แต่ไม่ชอบรังแกผู้อื่น อ้ายหลำกลายเป็นสัญลักษณ์ของร้านอาหาร ปั๊มน้ำมันที่หนังพร้อมน้อยเป็นเจ้าของเอง ปั้นรูปขนาดครึ่งคนจริงไว้หน้าร้าน อ้ายหลำชอบพูดจาเสียดสีคนใบ้หวยเบอร์ ตัวเองก็บอกเลข 3 ตัวไปด้วย คงโดยบังเอิญ มีคนซื้อเบอร์ถูกกันมากหลายครั้ง อ้ายหลำกลายเป็นรูปศักดิ์สิทธิ์ไปเข้าฝัน บอกเบอร์ และถูกด้วย จึงเป็นที่นับถือของผู้คนไป เวลาตลกอ้ายหลำไม่กล้าบอกเบอร์อีก กลัวเสื่อม
11.ผู้ใหญ่พูน น่าจะเลียนแบบมาจากผู้ใหญ่คนใดคนหนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่ จมูกยาวคล้ายตะขอเกี่ยวมะพร้าว ศรีษะล้าน มีผมเป็นกระจุกรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตรงกลางกลวงอยู่ กลางพุงโย้ย้อยยาน ตะโพกใหญ่ขวิดขึ้นบน เพื่อนมักจะล้อเลียนว่า บนหัวติดงวงถังตักน้ำ สันหลังเหมือนเขาพักผ้า (อยู่ระหว่างพัทลุง-ตรัง) นุ่งผ้าโจงกระเบน ไม่มีลวดลาย ชอบยุยง โม้โอ้อวด เห่อยศ ขู่ตะคอผู้อื่นให้เกรงกลัว ธาติแท้เป็นคนขี้ขลาดตาขาว ชอบแสแสร้งปั้นเรื่องฟ้องเจ้านาย ส่วนมากเป็นคนรับใช้อยู่เมืองยักษ์หรือกับฝ่ายโกง พูดช้าๆ หนีบจมูก เป็นตัวตลกประกอบ
12.อ้ายโถ เอาเค้ามาจากจีนบ๋าบา ชาวพังบัว อำเภอสะทิ้งพระ จังหวัดสงขลา รูปร่าง มีศรีษะค่อนข้างเล็ก ตาโตถลน ปากกว้าง ริมฝีปากล่างเม้มเข้าใน ส่วนท้องตึง อกใหญ่เป็นรูปโค้ง สวมหมวกมีกระจุกข้างบน นุ่งกางเกงถลกขา ถือมีดบังตอเป็นอาวุธ ชอบร้องรำทำเพลง ขี้ขลาดตาขาว โกรธใครไม่เป็น ถือเอาเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ ใครจะพูดเรื่องอะไรก็ตาม อ้ายโถจะชักเรื่องที่พูดวกเข้าหาเรื่องกินเสมอ เป็นตัวตลกประกอบ
13.อ้ายดำบ้า เลียนแบบมาจากคนชื่อดำเป็นชาวจังหวัดพัทลุง เป็นตัวตลกเอกของหนังเขียวฟ้าโห่ รูปร่างสูง ผิวดำ หัวล้าน จมูกยาว ไม่สวมเสื้อ นุ่งผ้าโจงกระเบน ชอบพูดยั่วคนอื่น
14.อ้ายจีนจ้ง เอาเค้ามาจากคนจีนที่มาอยู่เมืองไทย หน้าตาเหมือนคนจีน ทรงผมสูงไว้เป็นยางห้อยไปข้างหลัง สวมเสื้อหม้อฮ่อม นุ่งกางเกงแบบชาวจีน อาชีพ ขายเป็ด ขายไก่ พูดสำเนียงไม่ชัด เช่น เป็ดเป็นเป็ก เย็บเป็นเย็ก เมืองเป็นโมง หมดเป็นหมก จากที่พูดสำเนียงไทยไม่ชัดนี่เอง ทำให้เข้าใจไปว่ากำลังพูดอีกเรื่องหนึ่ง
15.อ้ายท้องช้าง รูปร่างสูงใหญ่ โกรธใครมักเหยียบด้วยเท้า เวลาเดิน มีอาการคล้ายช้างเดิน สวมเสื้อแขนสั้น ติดกระดุมเม็ดใหญ่ นุ่งกางเกงขายาวรูปทรงขากางเกงเหมือนเท้าช้างมือหลังเท้าสะเอว เป็นคนหัวโบราณ ชอบพูดภาษาถิ่นที่ชาวใต้ไม่ค่อยพูดกันแล้ว เช่น พระอภัยโมนี (พระอภัยมณี) เหินมาน (หนุมาน) ท้อหาร (ทหาร) โขเข (มาก) เป็นต้น ใครพูดเรื่องช้างเป็นโกรธทุกที คู่หูกับอ้ายขวด ตัวเล็กมาก ล้อเลียนอ้ายท้องช้างเสมอๆ เป็นตัวตลกประกอบหนังผลบ้านหนักขัน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ตลกอ้ายทองช้างกับอ้ายขวดกินรูปมาก
16.อ้ายแข้ง รูปร่างเล็กเตี้ย จมูกเชิด หัวล้านหน้าผากยื่น พูดจากไม่ชัดถ้อยชัดคำ ดุมากชอบต่อสู้กับคนที่ใหญ่กว่า แต่แพ้น้องชายชื่ออ้ายข้ง ตัวเล็กกว่าอ้ายแข้ง พูดไม่ชัดเหมือนกัน ดุมาก พบใครถ้าไม่พอใจ หาเรื่องท้ารบทันที การรบทุกครั้ง ทั้ง 2 คนพี่น้องไม่เคยถอย เป็นตัวตลกประกอบ หนังเขียวฟ้าโห่ตลก 2 ตัวนี้ได้ดีมาก
17.อ้ายดุเหว่า เสียงดังแหลม ใบหน้าแหลมคล้ายหัวปลาสลด ไว้ผมเปีย รูปร่งผอมเล็ก ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขายาว กระดิกขาหน้าได้ ถือขวานเป็นอาวุธ พูดกะล่อน ฉลาดแกมโกง เป็นเพื่อนคู่หูกับอ้ายวรนุช เป็นตัวตลกเอกของ หนังจุเลี่ยม กิ่งทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ศิลปินแห่งชาติ
18.อ้ายแก้วกบ อ้ายลูกหมีก็เรียก เป็นตัวตลกเอกของหนังจังหวัดนครศรีธรรมราช รูปร่างอ้วน ปากกว้างคล้ายกบ ชอบสนุกสนาน พูดจากไม่ชัด หัวเราะเก่ง ชอบพูดคำศัพท์ที่ผิดๆ เช่น อาเจียนมะขาม (รากมะขาม) ข้าวหนาว (ข้าวเย็น) ชอบร้องบทกลอน แต่ขาดสัมผัส เพื่อคู่หูคือนายยอดทอง
นอกจากที่นำมาเสนอไว้ ยังมีตัวตลกอีกหลายตัว เช่น ครูฉิม ครูฉุย สิบค้างคูด อีโร้ง อ้ายทองทิง อ้ายบองหลา อ้ายท่าน้ำตก เผียก อ้ายโหนด ตัวตลกฝ่ายหญิงก็มีหลายตัว เช่น อีหนูเตร็ด อีหนูเน่า หนังแต่ละคณะ มีตลกเอกไม่เกิน 6 ตัว เข้ากับเสียงและนิสัยของนายหนัง นอกนั้งเป็นตัวตลกประกอบ ทุกตัวต้องเรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้ ตัวตลกเอกเรียกเสียงหัวเราะได้มากและแสดงตลอดเรื่อง

ตัวตลก หนังตลุง

ตัวตลก หรือ รูปกาก มีความสำคัญในการแสดงหนังตะลุงมาก สามารถตรึงคนดูได้มีความผูกพันกับชีวิตของชาวบ้านมากกว่าตัวละครอื่นๆ หนังคณะหนึ่งๆ มีตัวตลกไม่น้อยกว่า 10 ตัวขึ้นไป พูดภาษาถิ่นใต้ การแต่งกายมักเปลือยท่อนบน หน้าตาจะผิดเพี้ยนจากคนจริงไปบ้าง แต่ละตัวมีเสียงพูดหรือสำเนียงโดยเฉพาะ ตัวตลกเอก นิยมนำหนังตีนของอาจารย์ที่ตนเคารพนับถือ มาทำเป็นริมฝีปากล่าง เพื่อให้เกิดความขลังและศักดิ์สิทธิ์ ปิดทองทั้งตัว ขนาดเชือกชักปากทำด้วยทองแบบสร้อยคอก็มี ตัวตลกมีเป็นจำนวนมาก เฉพาะตัวที่สำคัญมีดังนี้
1.อ้ายเท่ง เอาเค้ามาจากชาวบ้านคนหนึ่ง ชื่อเท่ง อยู่บ้านคูขุด อำเภอสะทิ้งพระ จังหวัดสงขลา หนังจวนบ้านคูขุดนำมาตัดรูปตลกเป็นครั้งแรก หนังคณะอื่นๆ นำไปเลียนแบบ รูปร่างผอมบางสูง ท่อนบนยาวกว่าท่อนล่าง ผิวดำ ปากกว้าง หัวเถิก ผมงอหยิก ใบหน้าคล้ายนกกระฮัง นิ้วมือขวายาวโตคล้ายอวัยวะเพศผู้ชาย นิ้งชี้กับหัวแม่มือซ้ายงอหยิกเป็นวงเข้าหากัน นุ่งผ้าโสร่งลายตาหมากรุก คาดพุงด้วยผ้าขะม้า ไม่สวมเสื้อ ที่สะเอวเหน็บมีดอ้ายครก (มีดปลายแหลมด้านงอโค้งมีฝัก) ชอบพูดจาโผงผาง ไม่เกรงใจใคร ขู่สำทับผู้อื่น ล้อเลียนเก่ง เป็นคู่หูกับอ้ายหนูนุ้ย
2.อ้ายหนูนุ้ย นำเค้ามาจากคนซื่อๆ แกมโง่ ผิวดำ รูปร่างค่อนข้างเตี้ย พุงยานโย้คอตก ทรงผมคล้ายแส้ม้า จมูกปากยื่นออกไป คล้ายกับปากวัว มีเครายาวคล้ายหนวดแพะ ใครพูดเรื่องวัวเป็นไม่พอใจ นุ่งผ้าโสร่งแต่ไม่มีลวดลาย ไม่สวมเสื้อ ถือมีดตะไกรหนีบหมากเป็นอาวุธ พูดเสียงต่ำสั่นเครือดันขึ้นนาสิก ชอบคล้อยตามคนยุยงส่งเสริม แสดงความซื่อออกมาเสมอ
4.นายสีแก้ว เชื่อกันว่าเอาเค้ามาจากคนที่ชื่อสีแก้วจริงๆ เป็นคนมีตะบะ มือหนักโกรธใครตบด้วยมือหรือชนด้วยศรีษะ เป็นคนพูดจริง ทำจริง สู้คน ชอบอาสาเจ้านายด้วยจริงใจ ตักเตือนผู้อื่นให้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามทำนองคลองธรรม รูปร่างอ้วนเตี้ย ผิวคล้ำ มีโหนกคอ ศรีษะล้าน นุ่งผ้าโจงกระเบนลายตาหมากรุก ไม่สวมเสื้อ ไม่ถืออาวุธใดๆ ใครพูดล้อเลียนเกี่ยวกับเรื่องพระ เรื่องร้อน เรื่องจำนวนเงินมากๆ จะโกรธทันที พูดช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ เพื่อนคู่หูคือนายยอดทอง
3.นายยอดทอง เชื่อกันว่าเป็นชื่อคนจริงชาวจังหวัดพัทลุง รูปร่างอ้วน ผิวดำ พุงย้อยก้นงอนขึ้นบนผมหยิกเป็นลอน จมูกยื่น ปากบุ๋ม เหมือนปากคนแก่ไม่มีฟัน หน้าเป็นแผลจนลายคล้ายหน้าจระเข้ โครพูดถึงเรื่องจระเข้ไม่พอใจ นุ่งผ้าลายโจงกระเบน ไม่สวมเสื้อ เหน็บกริชเป็นอาวุธประจำกาย เป็นคนเจ้าชู้ ปากพูดจาโอ้อวด ใจเสาะ ขี้ขลาด ชอบขู่หลอก พูดจาเหลวไหล ยกย่องตนเอง บ้ายอ ชอบอยู่กับนายสาว ที่มีสำนวนชาวบ้านว่า "ยอดทองบ้านาย" นายยอดทอง แสดงคู่กับตัวตลกอื่นๆ ได้หลายตัว เช่น คู่กับอ้ายหลำ คู่กับอ้ายขวัญเมือง คู่กับอ้ายพูนแก้ว คู่กับอ้ายดำบ้า คู่กับอ้ายลูกหมี คู่กับอ้ายเสมียน เป็นต้น
6.อ้ายขวัญเมือง ไม่มีประวัติความเป็นมา เป็นตัวตลกเอกของหนังจันทร์แก้ว จังหวัดนครศรีธรรมราช คนในถิ่นนั้น เขาไม่เรียกว่าอ้ายเมือง แต่เรียกว่า "ลุงขวัญเมือง" แสดงว่าได้รับการยกย่องจากคนในท้องถิ่นอย่างสูงเหมือนกับเป็นคนสำคัญผู้หนึ่ง ใบหน้าของขวัญเมืองคล้ายแพะ ผมบางหยิกเล็กน้อย ผิวดำ หัวเถิก จมูกโด่งโตยาว ปากกว้าง พุงยานโย้ ก้นเชิด ปลายนิ้งชี้คล้ายนิ้วมืออ้ายเท่ง นุ่งผ้าพื้นดำ คาดเข็มขัด ไม่สวมเสื้อ เป็นคนซื่อ บางครั้งแฝงไว้ซึ่งความฉลาด ชอบสงสัยเรื่องของผู้อื่น พูดจาเสียงหวาน หนังจังหวัดสงขลาแสดงคู่กับอ้ายสะหม้อ หนังจังหวัดนครศรีธรรมราชแถวอำเภอเชียรใหญ่ หัวไทร ปากพนัง ท่าศาลา ให้แสดงคู่กับนายยอดทอง หนังพัทลุง ตรัง นิยมให้เป็นตัวบอกเรื่อง เฝ้าประตูเมือง ออกตีฆ้องร้องป่าว
5.อ้ายสะหม้อ หนังกั้น ทองหล่อ นำมาจากคนจริง โดยได้รับอนุญาตจากชาวอิสลามชื่อสะหม้อ อยู่บ้านสะกอม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา หนังตะลุงอื่นๆ ที่นำไปเลียนแบบ พูดกินรูปสู้หนังกั้น ทองหล่อไม่ได้ รูปร่างอ้ายสะหม้อ หลังโกง มีโหนกคอ คางย้อย ลงพุง รูปร่างเตี้ย สวมหมวกแขก นุ่งผ้าโสร่ง ไม่สวมเสื้อ พูดล้อเลียนผู้อื่นได้เก่ง ค่อนข้างอวดดี นับถือศาสนาอิสลามแต่ชอบกินหมู ชอบดื่มเหล้า พูดสำเนียงเนิบนาบ รัวปลายลิ้น
7.อ้ายดิก เลียนแบบรูปเป็ด ริมฝีปากยาว พูดจากไม่ชัด พุงโย้ ก้นเชิดสูง นุ่งผ้าโจงกระเบน ไม่สวมเสื้อมือซ้ายถือกระจ่า ชอบยอ เป็นตัวตลกประกอบ มักเป็นเพื่อนคู่หูกับอ้ายปราบ
8.อ้ายปราบ เลียนแบบจากคนที่จมูกเป็นริดสีดวง จนจมูกยุบ ชอบกินแกงปลาไหล แกงปลาหมอ แกงตะพาบน้ำ ล้วนแสลงโรคริดสีดวงจมูกทั้งสิ้น ใครพูดจาเสียงอู้อี้เป็นโกรธทันที รูปร่างผอม นุ่งกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ ตัดผมสั้นหวีแสกกลาง มือหนึ่งถือหวี มือหนึ่งถือกระจก เป็นคนชอบแต่งตัวหวีผมบ่อยๆ แม้เวลารบกัน ขอพักรบหวีผมให้เรียบร้อยก่อน ไม่เป็นคนเจ้าชู้ สนใจตัวเองมากกว่าผู้หญิง เป็นตัวตลกประกอบ
9.อ้ายเสมียน เลียนแบบจากมโนห์รา ชอบรำ และร้องบทกลอนมโนห์รา ตัวอ่อนช้อยตัดต่อถึง 3 ท่อน ไม้ตับติดทแยงที่ศรีษะ ติดที่เท้า เอียงตัวไปมาข้างหน้าข้างหลังได้ เวลาเข้าที่คับขัน ปลอมตัวเป็นจอมปลวกเล็กๆ ฝ่ายศัตรูเข้าใจว่าเป็นจอมปลวก ก็เดินผ่านเลยไป บางครั้งปลอมตัวเป็นยายแก่ ตบตาผู้อื่น เอาชนะฝ่ายศัตรูด้วยกลอุบาย เอาตัวรอดได้เสมอ เป็นตัวตลกเอกของหนังหนูจุล จังหวัดนครศรีธรรมราช หนังหนูจุลถึงแก่กรรมไปแล้ว มีผู้นำไปเลียนแบบอยู่บ้าง
10.อ้ายหลำ เป็นตัวตลกเอกของ หนังพร้อมน้อย ตะลุงสากล ยอดหนังตะลุงของภาคใต้ แสดงหนังมาตั้งแต่อายุ 14 ปี หนังพร้อมน้อยเล่าให้ฟังว่า เมื่อเขาอายุได้ 15 ปี ได้ไปแสดงหนังตะลุงที่บ้านแหลมโตนด อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง เห็นหมาตัวหนึ่งคาบหนังวัวแห้งมา เข้าใจว่าเป็นรูปหนัง จึงให้ลูกคู่ช่วยกันไล่ตามหมาตัวนั้น และเอาหนังแห้งที่หมาคาบมาได้ หนังพร้อมเห็นมารูปร่างแปลก นำมาให้ช่างรูปหนังช่วยตัดส่วนที่เว้าแหว่ง ที่เกิดจากรอยหมากัดออก ทำเป็นรูปตลก ตั้งชื่อว่า "อ้ายหลำ" มีรูปร่างแปลก หัวเล็ก ลำตัวใหญ่ ไหล่ผึ่ง ตะโพกใหญ่ แต่งตัวทันสมัย สวมเสื้อมือยาว ผูกเนคไท นุ่งกางเกงขายาว สวมรองเท้า ชอบพูดจากหยาบโลน เสียดสีสังคม แผ่ความจริง ชอบเล่านิทานสัปดลมีนิทานประเภทนี้เป็น 100 เรื่อง ถ้าเกิดเล่นนิทานขึ้นมาแล้ว โดยนายยอดทองคู่หูเป็นผู้ซักถาม เล่าติดต่อกัน 4-5 เรื่อง กินเวลาเป็นชั่วโมง สติปัญญาหลักแหลม ไม่กลัวใคร แต่ไม่ชอบรังแกผู้อื่น อ้ายหลำกลายเป็นสัญลักษณ์ของร้านอาหาร ปั๊มน้ำมันที่หนังพร้อมน้อยเป็นเจ้าของเอง ปั้นรูปขนาดครึ่งคนจริงไว้หน้าร้าน อ้ายหลำชอบพูดจาเสียดสีคนใบ้หวยเบอร์ ตัวเองก็บอกเลข 3 ตัวไปด้วย คงโดยบังเอิญ มีคนซื้อเบอร์ถูกกันมากหลายครั้ง อ้ายหลำกลายเป็นรูปศักดิ์สิทธิ์ไปเข้าฝัน บอกเบอร์ และถูกด้วย จึงเป็นที่นับถือของผู้คนไป เวลาตลกอ้ายหลำไม่กล้าบอกเบอร์อีก กลัวเสื่อม
11.ผู้ใหญ่พูน น่าจะเลียนแบบมาจากผู้ใหญ่คนใดคนหนึ่ง รูปร่างสูงใหญ่ จมูกยาวคล้ายตะขอเกี่ยวมะพร้าว ศรีษะล้าน มีผมเป็นกระจุกรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ตรงกลางกลวงอยู่ กลางพุงโย้ย้อยยาน ตะโพกใหญ่ขวิดขึ้นบน เพื่อนมักจะล้อเลียนว่า บนหัวติดงวงถังตักน้ำ สันหลังเหมือนเขาพักผ้า (อยู่ระหว่างพัทลุง-ตรัง) นุ่งผ้าโจงกระเบน ไม่มีลวดลาย ชอบยุยง โม้โอ้อวด เห่อยศ ขู่ตะคอผู้อื่นให้เกรงกลัว ธาติแท้เป็นคนขี้ขลาดตาขาว ชอบแสแสร้งปั้นเรื่องฟ้องเจ้านาย ส่วนมากเป็นคนรับใช้อยู่เมืองยักษ์หรือกับฝ่ายโกง พูดช้าๆ หนีบจมูก เป็นตัวตลกประกอบ
12.อ้ายโถ เอาเค้ามาจากจีนบ๋าบา ชาวพังบัว อำเภอสะทิ้งพระ จังหวัดสงขลา รูปร่าง มีศรีษะค่อนข้างเล็ก ตาโตถลน ปากกว้าง ริมฝีปากล่างเม้มเข้าใน ส่วนท้องตึง อกใหญ่เป็นรูปโค้ง สวมหมวกมีกระจุกข้างบน นุ่งกางเกงถลกขา ถือมีดบังตอเป็นอาวุธ ชอบร้องรำทำเพลง ขี้ขลาดตาขาว โกรธใครไม่เป็น ถือเอาเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ ใครจะพูดเรื่องอะไรก็ตาม อ้ายโถจะชักเรื่องที่พูดวกเข้าหาเรื่องกินเสมอ เป็นตัวตลกประกอบ
13.อ้ายดำบ้า เลียนแบบมาจากคนชื่อดำเป็นชาวจังหวัดพัทลุง เป็นตัวตลกเอกของหนังเขียวฟ้าโห่ รูปร่างสูง ผิวดำ หัวล้าน จมูกยาว ไม่สวมเสื้อ นุ่งผ้าโจงกระเบน ชอบพูดยั่วคนอื่น
14.อ้ายจีนจ้ง เอาเค้ามาจากคนจีนที่มาอยู่เมืองไทย หน้าตาเหมือนคนจีน ทรงผมสูงไว้เป็นยางห้อยไปข้างหลัง สวมเสื้อหม้อฮ่อม นุ่งกางเกงแบบชาวจีน อาชีพ ขายเป็ด ขายไก่ พูดสำเนียงไม่ชัด เช่น เป็ดเป็นเป็ก เย็บเป็นเย็ก เมืองเป็นโมง หมดเป็นหมก จากที่พูดสำเนียงไทยไม่ชัดนี่เอง ทำให้เข้าใจไปว่ากำลังพูดอีกเรื่องหนึ่ง
15.อ้ายท้องช้าง รูปร่างสูงใหญ่ โกรธใครมักเหยียบด้วยเท้า เวลาเดิน มีอาการคล้ายช้างเดิน สวมเสื้อแขนสั้น ติดกระดุมเม็ดใหญ่ นุ่งกางเกงขายาวรูปทรงขากางเกงเหมือนเท้าช้างมือหลังเท้าสะเอว เป็นคนหัวโบราณ ชอบพูดภาษาถิ่นที่ชาวใต้ไม่ค่อยพูดกันแล้ว เช่น พระอภัยโมนี (พระอภัยมณี) เหินมาน (หนุมาน) ท้อหาร (ทหาร) โขเข (มาก) เป็นต้น ใครพูดเรื่องช้างเป็นโกรธทุกที คู่หูกับอ้ายขวด ตัวเล็กมาก ล้อเลียนอ้ายท้องช้างเสมอๆ เป็นตัวตลกประกอบหนังผลบ้านหนักขัน อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ตลกอ้ายทองช้างกับอ้ายขวดกินรูปมาก
16.อ้ายแข้ง รูปร่างเล็กเตี้ย จมูกเชิด หัวล้านหน้าผากยื่น พูดจากไม่ชัดถ้อยชัดคำ ดุมากชอบต่อสู้กับคนที่ใหญ่กว่า แต่แพ้น้องชายชื่ออ้ายข้ง ตัวเล็กกว่าอ้ายแข้ง พูดไม่ชัดเหมือนกัน ดุมาก พบใครถ้าไม่พอใจ หาเรื่องท้ารบทันที การรบทุกครั้ง ทั้ง 2 คนพี่น้องไม่เคยถอย เป็นตัวตลกประกอบ หนังเขียวฟ้าโห่ตลก 2 ตัวนี้ได้ดีมาก
17.อ้ายดุเหว่า เสียงดังแหลม ใบหน้าแหลมคล้ายหัวปลาสลด ไว้ผมเปีย รูปร่งผอมเล็ก ไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขายาว กระดิกขาหน้าได้ ถือขวานเป็นอาวุธ พูดกะล่อน ฉลาดแกมโกง เป็นเพื่อนคู่หูกับอ้ายวรนุช เป็นตัวตลกเอกของ หนังจุเลี่ยม กิ่งทอง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ศิลปินแห่งชาติ
18.อ้ายแก้วกบ อ้ายลูกหมีก็เรียก เป็นตัวตลกเอกของหนังจังหวัดนครศรีธรรมราช รูปร่างอ้วน ปากกว้างคล้ายกบ ชอบสนุกสนาน พูดจากไม่ชัด หัวเราะเก่ง ชอบพูดคำศัพท์ที่ผิดๆ เช่น อาเจียนมะขาม (รากมะขาม) ข้าวหนาว (ข้าวเย็น) ชอบร้องบทกลอน แต่ขาดสัมผัส เพื่อคู่หูคือนายยอดทอง
นอกจากที่นำมาเสนอไว้ ยังมีตัวตลกอีกหลายตัว เช่น ครูฉิม ครูฉุย สิบค้างคูด อีโร้ง อ้ายทองทิง อ้ายบองหลา อ้ายท่าน้ำตก เผียก อ้ายโหนด ตัวตลกฝ่ายหญิงก็มีหลายตัว เช่น อีหนูเตร็ด อีหนูเน่า หนังแต่ละคณะ มีตลกเอกไม่เกิน 6 ตัว เข้ากับเสียงและนิสัยของนายหนัง นอกนั้งเป็นตัวตลกประกอบ ทุกตัวต้องเรียกเสียงหัวเราะจากคนดูได้ ตัวตลกเอกเรียกเสียงหัวเราะได้มากและแสดงตลอดเรื่อง

ต้นชก











ต้นชก

ชื่อพื้นเมือง : ฉก ( ภูเก็ต , พังงา ), โยก หรือตาว ( สตูล ), เนา ( ตรัง ), กาชก ( ชุมพร ) ชิด ( ภาคกลาง ), ตาว ( ภาคเหนือ ) ชื่อวิทยาศาสตร์ : Arengasaccharifera Labill หรือ Arenga Pinnata Merr. ชื่อวงศ์ : PALMAE ลักษณะลำต้น : เป็นไม้จำพวกปาล์ม มีลำต้นตรง ขนาดใหญ่กว่าต้นตาล สูงประมาณ 20 – 25 เมตร ต้นชกมีอายุประมาณ 30 ปี ใบ : มีลักษณะคล้ายใบมะพร้าว แต่ใหญ่กว่าและแข็งแรงกว่า ก้านใบ และทางใบเหยียดตรงกว่าใบมะพร้าว มีรกสีดำตามกาบใบหนาแน่น มีความยาวประมาณ 3 เมตร ดอก : ดอกหรืองวงของต้นชก จะออกดอกจากส่วนบนใกล้ยอดของลำต้น มีนิ้วหรือก้านดอกห้อยเป็นพวง ยาวประมาณ 3 – 5 เมตร ต้นชกจะออกดอกหรือ งวงประมาณเดือนกันยายน – ตุลาคม ผล : มีลักษณะการออกผลเป็นทะลาย เนื้อคล้ายผลหลุมพี ภายในผลมี 3 เมล็ด ภายในเมล็ดมีเยื่อหุ้มอยู่ด้วย ผลแก่ราวเดือนมกราคม ถึง กุมภาพันธ์ ต้นชกตัวผู้ เมื่อออกดอกแล้วจะไม่มีผล การกระจายพันธุ์ : มักเจริญเติบโตในบริเวณเชิงเขาหรือเนินเขาเตี้ย ๆ ในป่าเขตร้อนชื้น หรือใกล้ลำธาร โดยเฉพาะในภาคใต้และภาคเหนือของไทย การขยายพันธุ์ : ใช้เมล็ด ประโยชน์ : 1. ใช้ทำอาหาร จากส่วนต่าง ๆ คือ * เนื้อเมล็ด ใช้รับประทานเป็นของหวาน ก่อนรับประทาน ต้องนำไปเผาไฟก่อน แล้วจึงผ่าเพื่อแคะเอาเนื้อออกมา เพราะมีเยื่อหุ้มอยู่จะทำให้เกิดอาการคันได้ * ยอดอ่อน ใช้ทำอาหารได้ทั้งคาวและหวาน * งวงหรือดอก ใช้ทำน้ำตาลชก คล้ายน้ำตาลโตนด 2. ใช้ทำแปรง จากเส้นใยของต้นชกหรือรกชก 3. ใช้ทำเสื้อกันฝนของคนจีนโบราณ จากเส้นใยของลำต้น หรือรกชก เรียกว่า จังซุ้ย ( มีแสดงที่พิพิธภัณฑ์วัดพระทอง และศูนย์อนุรักษ์มรดกท้องถิ่นกะทู้ โรงเรียนบ้านกะทู้ ) 4. ใช้ทำไม้กวาด จากก้านใบ 5. ใช้มุงหลังคา จากใบของต้นชก

รัฐกานต์ สัจจวิเศษ ม .2/2 : ผู้รวบรวม
ลลิดา เหลืองประดิษฐ์กุล ม .2/2 : ผู้รวบรวม
อ . เย็นใจ ทองภิญโญชัย : ที่ปรึกษา
อ . เย็นใจ ทองภิญโญชัย : ภาพ


บรรณานุกรม
มโน พิสุทธิรัตนานนท์ . 2542. “ ชก : พืช .” สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคใต้ . 4: 1828 – 1829.
สุรีย์ ภูมิภมร และ อนันต์ คำคง , บรรณาธิการ . 2540. ไม้เอนกประสงค์กินได้ . กรุงเทพฯ :
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ .



ต้นชก กระจายพันธุ์อยู่ตาม
เชิงเขาในป่าเขตร้อนชื้นหรือ
ใกล้ลำธาร โดยเฉพาะ
ในภาคใต้และภาคเหนือของไทย

ใบของต้นชก
มีลักษณะคล้ายใบของต้นมะพร้าว
แต่แข็งแรงและใหญ่กว่า




รกของต้นชกที่บริเวณกาบใบ
มีความหนาแน่นมากใช้ทำ
เสื้อกันฝนหรือแปรงได้

ลูกชกเป็นผลรวมมีลักษณะกลม
เนื้อในของเมล็ดใช้รับประทาน
เป็นของหวาน

ข้าวยำ

ข้าวยำ
เครื่องปรุง


ข้าวสวย กุ้งแห้งป่น อย่างละ 1 ถ้วย
มะพร้าวขูดคั่ว 1 ถ้วย
ตะไคร้ซอย 3 ต้น
ถั่วฝักยาวหั่นฝอย 1 ถ้วย
ถั่วงอกเด็ดหาง 1 ถ้วย
มะนาวผ่าซีก 1 ลูก
ใบมะกรูดอ่อนซอย 1/2 ถ้วย
พริกขี้หนูแห้งคั่วป่น 1/4 ถ้วย
ส้มโอแกะเนื้อ 1 ถ้วย



น้ำบูดู


น้ำบูดู 1/2 ถ้วย
ปลาอินทรีเค็ม 1 ชิ้น
หอมแดงบุบพอแตก 4 หัว
ข่ายาว 1 นิ้ว ทุบพอแตก 1 ชิ้น
ตะไคร้หั่นท่อนสั้น 3 ต้น
ใบมะกรูดฉีก 3 ใบ
น้ำตาลปี๊ป 1 ถ้วย
น้ำ 1 1/2 ถ้วย





วิธีทำ

ทำน้ำบูดูโดยใส่เครื่องปรุงทั้งหมดลงในหม้อเคลือบ ยกขึ้นตั้งไฟกลางค่อนข้างอ่อน เคี่ยวจนมีลักษณะข้น ยกลงกรองเอาแต่น้ำบูดู

เวลารับประทาน จัดข้าวสวยใส่จาน ใส่มะพร้าวคั่ว กุ้งแห้ง ส้มโอ พริกป่น และผักทั้งหมด อย่างละเล็กละน้อย เคล้าอีกครั้ง รับประทานทันที